หลักการบริหารเงินหลังแต่งงาน


การแต่งงานถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ เราเชื่อว่าคู่รักทุกคู่จะมีความสุขกับช่วงเวลาที่ดีระหว่างหาข้อมูลเตรียมงานแต่งงาน นอกจากการวางแผนเตรียมงานแต่งงานให้ออกมาสวยงามดั่งใจหวังแล้วนั้น สิ่งสำคัญอีกหนึ่งประการคือการบริหารการเงินทั้งก่อนแต่งงาน และ หลังการแต่งงาน เพื่อให้ชีวิตคู่ราบรื่นและมีความสุข ทางเรา WeddingAllLove.com จึงได้หาข้อมูลการบริหารจัดการเงินหลังแต่งงานมาฝาก
ลองนำไปประยุกใช้ดูจ้า 
1.เลือกคนจัดการเรื่องเงิน
ควรตกลงกันให้แน่นอนว่า เงินที่ได้มานั้นจะให้ใครเป็นคนดูแล หรือจะเลือกดูแลทั้งสองคน แต่ต้องคอยอัพเดตรายละเอียดของเงินที่เข้าและออก เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคต ที่ไม่สามารถทราบได้ เพราะอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่สามารถประคับประครองชีวิตคู่ไปได้ต่อ จะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้และสามารถลดความขัดแย้งได้เร็วขึ้นนั่นเอง
2.ก่อนซื้ออะไรต้องบอกกล่าว
ฟังดูอาจเป็นเรื่องจุกจิก แต่คือสิ่งที่ควรทำหากต้องแต่งงานมีชีวิตครอบครัว เพราะไม่ว่าจะเป็นรายได้และรายจ่าย คือสิ่งที่คู่รักต้องรับรู้ร่วมกัน และมีการชี้แจงแถลงไขให้เป็นกิจจะลักษณะ เพื่อลดปัญหาไม่ทราบที่มาของการใช้จ่ายออกไป ซึ่งการบอกกล่าวเรื่องของการใช้เงินจะช่วยทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความสบายใจ และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมากขึ้นนั่นเอง
3.เลือกซื้อสิ่งของที่จำเป็น
จากที่เคยจับจ่ายซื้อของฟุ่มเฟือย ซื้ออะไรตามใจตัวเองตั้งแต่ตอนโสด สิ่งที่ต้องปรับตัวให้ได้คือ เลือกซื้อหรือจับจ่ายเฉพาะสิ่งของจำเป็นเท่านั้น หรืออาจจะซื้อได้ในบางครั้ง แต่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายให้รัดกุมมากกว่าเดิม เพราะชีวิตคุณในลำดับต่อไป คือมีลูก ซึ่งหมายความว่า ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็จะตามมาอีกมากมายเช่นกัน เพราะสิ่งที่จะช่วยให้รายได้ไม่เสียไปกับสิ่งของฟุ่มเฟือยหรือไร้สาระ คือการเลือกซื้อเฉพาะสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการใช้จ่ายเท่านั้น
4.แบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ
การบริหารจัดการเงินให้ระเบียบ จะทำให้ทราบถึงการใช้เงิน หากสามารถแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ ได้ จะทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ทราบว่าสิ่งที่จะซื้อแต่ละรายการควรจะต้องตั้งงบประมาณไว้ที่เท่าไหร่ จะได้พอดีในแต่ละวันหรือเดือนหรือปี ซึ่งจะช่วยให้การจัดการเงินได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
5.เปิดบัญชีร่วมกัน
การเปิดบัญชีร่วมกันจะช่วยให้การบริหารจัดการเงินได้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบัญชีที่เปิดควรเป็นเงินเก็บ ไม่ควรเบิกถอนออกไปถ้าไม่จำเป็น หากมีการแบ่งเงินออกเป็นสัดส่วนอยู่แล้ว ควรแบ่งส่วนที่เป็นเงินเก็บแล้วนำมาฝากเข้าบัญชีเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้มีการตัดสินใจร่วมกัน กรณีมีเหตุต้องเบิกถอนจะทำให้มีการปรึกษาหารือก่อนนำเงินนั้นออกมาจากบัญชี
6.ไม่จำเป็นไม่ควรกู้ยืม
การกู้ยืมคือการนำเงินอนาคตมาใช้ ชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอน ไม่ควรกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างๆ หากไม่จำเป็น เพราะจะทำให้เกิดปัญหาการเงินได้ในอนาคตกรณีที่สถานะการเงินต้องเกิดปัญหาสภาพคล่อง หมุนเงินไม่ทัน อันจะนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ตามมาเช่น ความคิดเห็นต่างกันจนหาข้อสรุปไม่ได้ อันจะนำไปสู่ปัญหาการเลิกรา หรือความขัดแย้งในที่สุด ควรจะหารายได้เพิ่มมากกว่าการสร้างเครดิตเพิ่มจะดีกว่า
7.การต่อยอดเงิน
เพราะชีวิตหลังแต่งงาน จะต้องคำนึงถึงความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นด้านรายได้หรือความมั่นคงของอาชีพการงาน ชีวิตคู่จะมีการใช้เงินมากกว่าชีวิตโสด ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นมาอีกมากมาย หากมีเงินเก็บที่มากพอ ควรนำเงินไปลงทุนเพื่อต่อยอดและทำกำไรให้แก่เงินที่ลงทุนไป แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดเพื่อจะได้ไม่เกิดความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ เช่นการลงทุนซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไร
การเริ่มทำธุรกิจที่สามารถเติบโตและต่อยอดได้ดี ซึ่งการต่อยอดเงินจะช่วยให้เกิดการลงทุนร่วมกัน และนำไปสู่การทำธุรกิจร่วมกัน เพื่อสร้างรากฐานทางด้านการเงินให้มีความมั่นคงร่วมกัน แต่ก่อนที่จะลงมือทำอะไรควรมีการปรึกษาคู่ชีวิตทุกครั้ง เพื่อร่วมกันตัดสินใจและช่วยกันแก้ปัญหากันในทุกสถานการณ์

รายละเอียดเพิ่มเติม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ไอเดียร์ ทรงผมเจ้าสาว สวยสง่า หลากสไตล์

รวมโรงแรมแต่งงานใจกลางเมือง กรุงเทพ

หลากหลายความเชื่อที่ว่าทำไมต้องนิ้วนางข้างซ้าย